เมื่อ เดือนสิงหาคม ในปี 2016 เราได้มีโอกาสไปเที่ยวเกียวโตกันค่ะ เลยได้ลงมือทำแพลนเที่ยวขึ้นมาเอง
และในใจตอนนั้น เราคิดกันไว้ว่า ต้องไปหาแมสคอตตัวนี้กันให้ได้นะ นั้นคือ เจ้าเสือโทระริน
เรารู้จักเจ้าเสือ มาจากแมสคอตอีกตัว ที่เราติดตาม คือ นาโกมิชิบังโกะ
( โทระริน และ นาโกมิชิบังโกะ )
ในวันนั้นเจ้าเสือเพิ่งจะเปิดตัวได้ไม่นานค่ะ อายุตอนนั้นยังไม่ครบ1ขวบเลย (ปลายปี2015) นาโกมิชิบังโกะ ได้ไปหา และอัพรูป ผ่านทางทวีตเตอร์
เราเลยได้ติดตามเจ้าเสือตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา
พอติดตาม ก็ทำให้รู้ว่า เจ้าเสือ เป็น แมสคอต PR พิพิธภัณฑ์แห่งชาติเกียวโต ( Kyoto National Museum: 京都国立博物館 )
ในพิพิธภัณฑ์ ก็จะมีการจัดนิทรรศการ มากมาย ทำให้เราสนใจมากขึ้น อยากไปมากขึ้น
แล้วก็ถึงวันที่พวกเราลืมตาตื่นขึ้นมาที่เกียวโต
" HELLO KYOTO "
ขอเริ่มการเดินทางจาก Kyoto Station นะคะ
จริงๆแล้ว เส้นทางที่เราใช้เดินไปในปีที่แล้ว (2016) เราไมไ่ด้เริ่มจาก สถานีเกียวโต ค่ะ เราไปเดินเที่ยวที่อื่นก่อนหน้านี้ แต่เราอยากเริ่มเขียนถึงเกียวโต สเตชั่น เผื่อให้เพื่อนๆที่อยากไปเที่ยวตาม จะได้สะดวกค่า
ยิ่งสมัยนี้ มีApp ที่สามารถเช็คเส้นทางการเดินทางได้สะดวก รับรองไม่หลงค่ะ เราใช้2 App ในการค้นหาเส้นทาง นั้นคือ google street view และ Hyperdia
จาก สถานีเกียวโต สามารถเดินไป พิพิธภัณฑ์แห่งชาติเกียวโต ด้วยระยะทางเพียง 1.6 km และยังได้ข้ามแม่น้ำคาโมะ แม่น้ำสายสำคัญของเกียวโตด้วยค่ะ
และอีก 1 การเดินทาง คือการนั่งรถไฟใต้ดินค่ะ
จากสถานีเกียวโต ให้ลงไปชั้นใต้ดิน หารถไฟสาย JR NARA Line นั่งไปลงที่สถานี Tofukuji เพื่อเปลี่ยนขบวนรถไฟ มาเป็น สาย Keihan Maim Line
ค่าตั๋ว 270เยน ใช้เวลาประมาณ 5-6 นาที
พอมาถึง ที่สถานที Shichijo ต้องเดินต่ออีก 600m แล้วจะถึง พิพิธภัณฑ์แห่งชาติเกียวโต ค่ะ
หรือดูแผนที่ และการเดินทางเพิ่มเติม ได้ที่ เว็บไซต์ ของพิพิธภัณฑ์ ค่ะ
http://www.kyohaku.go.jp/eng/riyou/access/index.html
พอเดินไปถึง บริเวณพิพิธภัณฑ์แห่งชาติเกียวโต จะพบกับรั้วสวยงามใหญ่โตสีแดงอิฐ มองผ่านรั้วเข้าไป จะพบกับ อาคารเก่าแก่ สไตล์ตะวันตกสีแดงอิฐ ที่เป็นจุดเด่นอย่างชัดเจน
( https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Kyoto_National_Museum_main_gate.jpg )
แต่!! ประตูด้านนี้ เราไม่สามารถเดินเข้าได้นะคะ ต้องเดินไปซื้อตั๋วอีกด้าน ตามรูปด้านล่างที่ทำให้ค่ะ เบอร์1 คือประตูรั้วแดง ให้เดินไปเบอร์2ค่ะ
ค่าเข้าชม บุคคลทั่วไป 600 yen และนักเรียนนักศึกษา260 yen
หน้าตาของตั๋วก็จะได้แบบนี้ค่ะ
ส่วนด้านหลังของตั๋ว ก็จะบอกข้อห้ามแบบคร่าวๆ
ภายในบริเวณพิพิธภัณฑ์ กว้างขวาง มีหลากหลายโซน จะอธิบายเพิ่มคร่าวๆตามรูปด้านล่างนะคะ
1. อาคาร Heisei Chishinkan Wing เป็นอาคารที่จัดนิทรรศการถาวรเรียกว่าHeiseichishinkanได้รับการซ่อมแซมในเดือนกันยายน 2004 มีการจัดแสดงศิลปะ ราวๆ4,000ชิ้น รวมถึงงานแกะสลัก,ศิลปะงานเขียน,สิ่งทอ,เครื่องลายคราม,รูปภาพแผ่นม้วนและภาพวาด หมุนเวียนเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามหัวข้อการแสดงนิทรรศกาล
2. ลานน้ำพุ ที่มีรูปปั้น le penseur de rodin เป็นจุดเด่น
3. อาคาร Special Exhibition Hall
4. Tea house Tan,an
และส่วนที่เราจะเข้าชมนิทรรศการ พร้อมกับรอพบเจ้าเสือโทระริน ก็คืออาคารHeisei Chishinkan Wing
โทระริน จะโชว์ตัว ทุก ศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ (นอกจากต้องออกอีเว้นท์)
เวลาโชว์ตัว トラりんは金・土・日・祝日の以下の時間に登場します。
10:00~10:20
11:20~11:40
13:20~13:40
15:00~15:20
16:00~16:20
สามารถเช็ค ตารางการโชว์ตัวของโทระรินได้ที่ http://torarin.jp/
สำหรับใครที่ไม่ได้ ภาษาญี่ปุ่น แล้วอยากรู้ว่าวันที่ไป โทระรินอยู่โชว์ตัวมั้ย ให้เข้าไปที่เว็บไซต์ กดที่ Calender ตามรูปนะคะ
ก็จะเห็นหน้าตา ปฎิทิน ถ้า ช่องไหน วันไหน ที่โทระรินจะโชว์ตัว จะเป็นรูปหน้าเสือสีแดงๆ แสตมป์ไว้ค่ะ
ตัวอย่างแบบรูปด้านล่าง
วันนั้นที่พวกเราไป เราเล็งเวลาไว้ที่ช่วงบ่ายโมง เราก็เข้าไป เดินๆสำรวจพื้นที่เล็กน้อย มีเคาเตอร์บริการนักท่องเที่ยว ตรวจตั๋วอยู่ทางซ้ายมือ ขวามือ จะเป็นโซน ขายสินค้าของฝาก หนังสือเกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์ ศิลปะวัฒนธรรมต่างๆ
ถัดไปจากโซนขายของฝาก ก็จะมีโซนตู้กดน้ำ โต๊ะเก้าอี้ ให้นักท่องเที่ยวได้นั่งพักค่ะ แต่บริเวณนี้ห้ามน้ำอาหารเข้ามาทานนะคะ
พวกเรา ไม่แน่ใจว่าเจ้าเสือโทระริน จะออกมาโชว์ตัวบริเวณไหน เพราะมันใกล้เวลาแล้ว เลยเดินไปถามเจ้าหน้าที่ โดยถามเป็นภาษาอังกฤษ พร้อมโชว์รูปโทระรินให้ดูค่ะ เจ้าหน้าที่จึงบอกว่า ให้รออยู่แถวๆบริเวณที่ขายสินค้า พวกเราก็เลยรอๆแถวนั้น ตั้งใจว่า พอเจอโทระรินแล้ว ค่อยเข้าไปดูในโนที่จัดนิทรรศการกันค่ะ
รอไม่นานเจ้าเสือก็มา เหมือนกับทาง เจ้าหน้าที่เขาวิทยุไปบอก ว่ามีคนไทยมาหานะ เจ้าเสือเลยวิ่งพุ่งตรงดิ่งมาหาพวกเรา และกอดไว้แน่นๆมากๆ พวกเราทั้งตื่นเต้นดีใจ ใช้เวลาอยู่เล่นกับโทระรินร่วมๆ30 นาทีเลยค่ะ
นี่คือตอนที่พวกเรายื่นถุงขนมของฝากให้เจ้าเสือค่ะ เจ้าเสือดูตื่นเต้นตกใจ ที่ได้ของฝากจากคนไทย อย่างที่เกริ่นไว้ข้างต้น พวกเราไปหาตั้งแต่โทระรินอายุยังไม่ถึง1ขวบเลยค่ะ คงจะแปลกใจที่มีคนไทยรู้จักได้ยังไง ^^
พอเจ้าเสือได้ถุงขนมไป ก็รีบให้สต๊าฟเทของออกมาดูเลยค่ะ 555+ ตอนนั้นเราเอาป๊อกกี้มะม่วง เพรสรสลาบ กระเป๋าย่ามลายช้างไปฝาก พร้อมกับเขียนโน๊ตเล็กๆให้ไปค่ะ
เนื่องจากภาษา ที่ทางเราก็ไม่ได้ ทางนั้นก็ไม่ได้เช่นกัน เลยได้แต่นั่งจ้องตากันค่ะ 55+
ก่อนโทระรินจะกลับเข้าห้องพัก ก็ได้เขียนลายเซ็นต์ไว้ให้พวกเราเป็นที่ระลึกค่ะ
เราได้เขียนบทความเกี่ยวแมสคอตเสือโทระริน ไว้ที่ลิ้งนี้ค่ะ Mascot พิพิธภัณฑ์ เกียวโต โทระรินไง จะใครล่ะ
หลังจากได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากเจ้าเสือโทระรินแล้ว พวกเราก็ได้เวลาไปเดินสำรวจสมบัติแห่งชาติของญี่ปุ่น ในพิพิธภัณฑ์ กันแล้วค่ะ
โดยแต่ละชั้น ก็จะแยกการจัดแสดงแบบต่างๆ ซึ่งในนั้น ไม่สามารถถ่ายรูปได้นะคะ พวกเราเลยไม่มีรูปถ่ายสวยๆ ของผลงานศิลปะทางวัฒนธรรม มาฝากกัน
แต่ก็เอา เอกสารที่เขาแจกมาฝากกันนะคะ ว่าแต่ละชั้น จัดแสดงอะไรไว้บ้าง
ซึ่งนิทรรศการ การจัดแสดงผลงานทางศิลปะวัฒนธรรมนั้น จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ค่ะ แต่ละช่วงของปี เช่น ช่วงที่พวกเราไป จะเป็นการจัดแสดง ผ้าไหม ชุด และข้าวของเครื่องใช้ ตั้งแต่สมัยโบราณ จัดแสดงเป็นเวลา3เดือนเท่านั้นค่ะ
และ ที่ชั้น 2 ยังมีบูธ ให้นักท่องเที่ยว ได้ทดลองประกอบ ศีรษะเทวรูปไม้แกะสลัก โดยมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำ ในการถอด และประกอบชิ้นส่วนต่างๆ หลังจากประกอบเสร็จ เจ้าหน้าที่ก็จะให้เราถ่ายรูปได้ค่ะ เราเลยมีรูปมาฝากกันตามด้านล่างค่ะ
หากเพื่อนๆคนไหนสนใจ การท่องเที่ยวเชิงศิลปะวัฒนธรรม และยังได้เจอแมสคอตน่ารักๆ เราแนะนำให้มาที่นี้ค่ะ
สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่เว็บไซต์
http://www.kyohaku.go.jp/eng/index.html
เวลาทำการ: วันอังคารถึงวันอาทิตย์ ยกเว้นวันศุกร์ 9:30 - 18:00 (สามารถเข้าได้ถึง 17:30) วันศุกร์ 9:30 - 20:00 (สามารถเข้าได้ถึง 19:30)
และขอจบการรีวิว ด้วยรูปภาพบรรยากาศบริเวณรูปปั้น le penseur de rodin ตรงลานน้ำพุค่า